ผู้นำคือผู้กำหนดทิศทางองค์กร องค์กรจะหันซ้าย หรือหันขวาขึ้นอยู่กับผู้นำเพียงอย่างเดียวครับ หลายครั้งประวัติศาสตร์ในอดีตได้บันทึกความรุ่งโรจน์ และเสื่อมสลายขององค์กร หรืออาณาจักรต่างๆ ไว้ ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นการนำของผู้นำ ยกตัวอย่างการเลิกทาสในสมัยของประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอร์น ในช่วงสมัยของท่านเกิดสงครามกลางเมืองจนอเมริกาแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ด้วยการนำของท่าน และเป้าหมายที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือการเลิกระบบทาส และรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นปึกแผ่นจนถึงปัจจุบัน เป็นต้น
ผู้นำคือแบบอย่าง ต้นไม้หล่นไม่ไกลต้น, ปลูกพืชอะไรไว้ก็ได้ผลตามนั้น คำพังเพยนี้ยังคงชี้ให้เห็นถึงความเป็นจริงในปัจจุบันของการเป็นผู้นำ ท่านมหาตมะ คานธี คือผู้นำที่เป็นแบบอย่าง ท่านกุมแนวคิดหลักแห่งอหิงสาไว้จนวาระสุดท้ายในชีวิต การดำรงชีวิตของท่านก็เป็นอยู่อย่างเรียบง่าย มีอุปกรณ์ในการยังชีพอยู่เพียงไม่กี่ชิ้น ซ้ำยังทอผ้าใช้เอง ทำไมท่านจึงทำแบบนี้ อินเดียในสมัยของท่านประชาชนมีความยากจนเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษซึ้งไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน ท่านมหาตมะ คานธีจึงกำลังบอกกับประชาชนของท่านว่า ฉันคือพวกเดียวกับท่าน ฉันอยู่ข้างท่าน และฉันเป็นเหมือนท่าน อันนำไปสู่อินเดียสามารถประกาศเอกราชจากการปกครองของอังกฤษในที่สุด
ผู้นำคือผู้อนุญาตและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้นำคือผู้เปิดประตูของโอกาสในการพัฒนาต่างๆ ดังนั้นถ้าผู้นำปิดประตู เส้นทางที่เราวาดหวังไว้ก็จะปิดตามไปด้วย การพัฒนาคุณภาพต้องมีวัสดุ อุปกรณ์ และงบประมาณในการจัดการถ้าขาดเสียซึ้งการสนับสนุนแล้ว ทุกอย่างเดินหน้าได้ยาก แต่ทว่าความจำเป็นในเรื่องงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ไม่สามารถดำเนินการ อย่างนี้ก็ต้องทำใจนิดหนึ่งครับ
เป็นอย่างไรครับทิศทางนำ ด่านแรกของการพัฒนาเพื่อสู่ความสำเร็จในอนาคตครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น